Al Inyeel

อ่านคัมภีร์อัล-อินญีล

  • หน้าแรก
  • อ่าน
    • มาระโก
    • ลูกา
    • ยะหฺยา
  • ดาวน์โหลด
  • ติดต่อเรา

มา‌ระ‌โก 10

February 26, 2015 by Yusuf

คำ​สอน​เรื่อง​การ​หย่า‍ร้าง

1 อี‌ซา​ลุก​ขึ้น​ออก​จาก​ที่​นั่น​ไป​ยัง​เขต‍แดน​แคว้น​ยูเดีย และ​เลย​ไป​อีก​ฟาก​หนึ่ง​ของ​แม่‍น้ำ​จอร์‌แดน และ​ฝูง​ชน​พา​กัน​มา​หา​ท่าน​อีก ท่าน​จึง​สั่ง‍สอน​พวก​เขา​ตาม​ที่​ท่าน​ทำ​อยู่​เสมอ

2 พวก​ฟา‌ริสี​บาง‍คน​มา​ทด‍ลอง​ท่าน​ถาม​ว่า “การ​ที่​ผู้ชาย​จะ​หย่า​ภรร‌ยา​ของ​ตัว​เอง​นั้น
​ถูก​ต้อง​ตาม​ชา‌รี‌อะฮ์​หรือ​ไม่?” 3 ท่าน​ถาม​พวก​เขา​ว่า “นบีมู‌ซา​สั่ง​ไว้​ว่า​อย่าง‍ไร?” 4 พวก​เขา​ตอบ​ว่า “นบีมู‌ซา​อนุ‌ญาต ให้​ทำ​หนัง‍สือ​หย่า แล้ว​ปล่อย​เธอ​ไป” 5 อี‌ซา​จึง​ตอบ​พวก​เขา​ว่า “นบีมู‌ซา​เขียนชารีอะฮ์​ข้อ​นั้น​เพราะ​ใจ​ของ​พวก​ท่าน​ดื้อ‍ดึง 6 แต่​เดิม​เมื่อ​สร้าง​ชั้นฟ้าและแผ่นดินนั้น อัล‌ลอฮฺ​ทรง​สร้าง​มนุษย์​เป็น​ชาย​และ​หญิง  7 เพราะ​เหตุ​นี้​ผู้ชาย​จึง​ต้อง​ละ​บิดา​มาร‌ดา​ของ​ตน​ไป​ผูก‍พัน​อยู่​กับ​ภรร‌ยา 8 และ​เขา​ทั้ง‍สอง​จะ​เป็น​เนื้อ​เดียว​กัน ดัง​นั้น​พวก​เขา​จะ​ไม่​เป็น​สอง​อีก​ต่อ‍ไป แต่​เป็น​เนื้อ​เดียว​กัน 9 เพราะ​ฉะนั้น​สิ่ง​ที่​อัล‌ลอฮฺ​ทรง​ผูก‍พัน​กัน​แล้ว อย่า​ให้​มนุษย์​พราก​ออก​จาก​กัน​เลย”

10 เมื่อ​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​แล้ว พวก​สา‌วก​ถาม​ท่านอีก​ถึง​เรื่อง​นั้น 11 ท่าน​จึง​กล่าว​กับ​พวก​เขา​ว่า “ถ้า​ใคร​หย่า​ภรร‌ยา​ของ​ตน​แล้ว​ไป​มี​ภรร‌ยา​ใหม่ คน​นั้น​ก็​ทำ​ผิด​ศีลธรรมทางเพศ​ต่อ​ภรร‌ยา​เดิม 12 และ​ถ้า​ผู้‍หญิง​จะ​หย่า​สามี​ของ​ตน​แล้ว​ไป​มี​สามี​ใหม่ นาง​ก็​ทำ​ผิด​ศีลธรรมทางเพศ”

การ​ขอ‍ดุ‌อาอ์​เพื่อ​เด็ก​เล็กๆ

13 ขณะ​นั้น​มี​บาง‍คน​พา​เด็ก​เล็กๆ มา​หา​ท่านเพื่อ​จะ​ให้​ท่าน​สัม‌ผัส​ตัว​เด็ก​เหล่า​นั้น แต่​พวก​สา‌วก​ห้าม​ไว้ 14 เมื่อ​อี‌ซา​เห็น​อย่าง​นั้น​ก็​ไม่​พอ​ใจ กล่าว​กับ​พวก​สา‌วก​ว่า “จง​ยอม​ให้​เด็ก​เล็กๆ เข้า​มา​หา​เรา อย่า​ห้าม​เขา​เลย เพราะ​ว่า​การ‍ปก‌ครอง​ของ​อัล‌ลอฮฺ​เป็น​ของ​คน​อย่าง​พวก​เขา 15 เรา​บอก​ความ​จริง​กับ​ท่าน‍ทั้ง‍หลาย​ว่า ใคร​ที่​ไม่​ยอม​รับ​การ‍ปก‌ครอง​ของ​อัล‌ลอฮฺ​เหมือน​เด็ก​เล็กๆ จะ​เข้า​ใน​การปกครอง​นั้น​ไม่​ได้” 16 แล้ว​ท่าน​อุ้ม​เด็ก​เล็กๆ เหล่า​นั้น วาง​มือ​บน​ตัว​พวก​เขา แล้วขอดุอาอ์​ให้​พวก​เขา

เศรษฐี​คน​หนึ่ง

17 เมื่อ​ท่านกำ‌ลัง​จะ​ออก​ไป​นั้น มี​คน​หนึ่ง​วิ่ง​มา​หา​ท่าน คุก‍เข่า​ลง​ถาม​ท่านว่า “อา‌จารย์​ผู้​ประ‌เสริฐ ข้าพเจ้า​จะทำอย่าง​ไร ถึง​จะ​ได้​ชีวิต​นิรันดร์?” 18 อี‌ซา​กล่าว​กับ​คน​นั้น​ว่า “ท่านใช้​คำ​ว่า​ประ‌เสริฐ​ทำ‍ไม? ไม่​มี​ใคร​ประ‌เสริฐ​นอก​จาก​อัล‌ลอฮฺ​ผู้​เดียว 19 ท่านก็​รู้จัก
​ชารีอะฮ์​แล้ว​ที่​ว่า ‘ห้าม​ฆ่า​คน ห้าม​ล่วง​ประ‌เวณี​ผัว​เมีย​เขา ห้าม​ลัก​ทรัพย์  ห้าม​เป็น​พยาน​เท็จ ห้าม​โกง​เขา จง​ให้​เกียรติ​บิดา​มารดา​ของ​เจ้า’ ” 20 คน​นั้น​จึง​ตอบ​ท่าน​ว่า “ท่าน​อา‌จารย์ บัญญัติ​เหล่า​นั้น​ข้าพ‌เจ้า​ถือ​รัก‌ษา​ไว้​ตั้ง‍แต่​เด็ก” 21 อี‌ซา​มอง​ดู​คน​นั้น จึงเอ็นดู​เขา​แล้ว​กล่าว​ว่า “ท่าน​ยัง​ขาด​อยู่​อย่าง​หนึ่ง จง​ไป​ขาย​บรร‌ดา​สิ่ง​ของ​ที่​ท่าน​มี​อยู่ แจก‍จ่าย​ให้​กับ​คน​ยาก‍จน ท่านจึง​จะ​มี​ทรัพย์​สม‍บัติ​ใน​สรวง‍สวรรค์ แล้ว​จง​กลับ​มา​ติด​ตาม​เรา” 22 เมื่อ​เขา​ได้​ยิน​อย่าง​นั้น ใบ‍หน้า​ของ​เขา​ก็​สลด แล้ว​ออก​ไป​เป็น​ทุกข์ เพราะ​เขา​มี​ทรัพย์​สิ่ง​ของ​จำ‍นวน​มาก

23 อี‌ซา​จึง​มอง​ไป​รอบๆ แล้ว​กล่าวกับ​เหล่า​สา‌วก​ของ​ท่าน​ว่า “คน​มั่งมี​จะ​เข้า​ใน​การ‍ปก‌ครอง​ของ​อัล‌ลอฮฺ​ก็​ยาก​จริงๆ” 24 เหล่า​สา‌วก​ก็​ประ‌หลาด​ใจ​เพราะ​ถ้อย‍คำ​ของ​ท่าน แล้ว​อี‌ซา​กล่าว​กับ​พวก​เขา​อีก​ว่า “ลูก​เอ๋ย​การ​เข้า​ใน​การ‍ปก‌ครอง​ของ​อัล‌ลอฮฺ​ก็​ยาก​จริงๆ 25 อูฐ​จะ​ลอด​รู​เข็ม​ก็​ง่าย​กว่า​คน​มั่งมี​จะ​เข้า​ใน​การ‍ปก‌ครอง​ของ​อัล‌ลอฮฺ” 26 เหล่า​สา‌วก​ก็​ประ‌หลาด​ใจ​อย่าง​ยิ่ง พูด​กัน​เอง​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น​ใคร​จะ​รอด​ได้?” 27 อี‌ซา​มอง​พวก​เขา​แล้ว​กล่าว​ว่า “ส่วน​มนุษย์​ก็​เหลือ​กำ‌ลัง​ที่​จะ​ทำ​ได้ แต่​ไม่​เหลือ​กำ‌ลัง​ของ​อัล‌ลอฮฺ เพราะ​ว่า​อัล‌ลอฮฺ​ทรง​ทำ​ให้​สำ‌เร็จ​ได้​ทุก​สิ่ง” 28 เป‌โตร​จึง​เริ่ม​กล่าว​กับ​ท่าน​ว่า “นี่แน่ะ ข้า‍พเจ้า​ทั้ง‍หลาย​ยอม​สละ​สิ่ง​สาร‌พัด​และ​ติด​ตามท่าน​มา” 29 อี‌ซา​ตอบ​เขา​ว่า “เรา​บอก​ความ​จริง​กับ​ท่านว่า ใคร​ก็​ตาม​ที่​สละ​บ้าน หรือ​พี่​น้อง​ชาย​หญิง หรือ​บิดา​มาร‌ดา หรือ​ลูก หรือ​ไร่‍นา เพราะ​เห็น​แก่​เรา​และ​ข่าวดี​ของ​เรา 30 คน​นั้น​จะ​ได้​รับ
​ผล​ตอบ‍แทน​ร้อย​เท่า​ใน​โลกนี้​คือ บ้าน พี่​น้อง​ชาย​หญิง มารดา ลูก และ​ไร่‍นา พร้อม​การ​ข่ม‍เหง​ด้วย และ​ใน​โลก​หน้า​จะ​ได้​ชีวิต​นิรันดร์ 31 แต่​หลาย​คน​ที่​เป็น​คน​แรก​จะ​กลับ​ไป​เป็น​คน​สุด‍ท้าย และ​คน​สุด‍ท้าย​จะ​กลับ​ไป​เป็น​คน​แรก”

อี‌ซา​กล่าว​ถึง​การตายและการฟื้นขึ้นจากตาย​ของ​ท่าน​เป็น​ครั้ง​ที่​สาม

32 ขณะ​ที่​กำ‌ลัง​เดิน‍ทาง​ขึ้น​ไป​ยัง​บัยตุลมักดิสนั้น อี‌ซา​เดิน​นำ​หน้า​พวก​เขา พวก​สา‌วก​ก็​พา​กัน​ประ‌หลาด​ใจ และ​คน​ที่​เดิน​ตาม​มา​ก็​หวาด‍กลัว ท่านจึง​พา​สา‌วก​สิบ‍สอง​คน​แยก​ออก​มา​อีก แล้ว​บอกให้​พวก​เขา​ทราบ​ถึง​เหตุ‍การณ์​ที่​จะ​เกิด​กับ​ท่าน​นั้น​ว่า 33 “นี่แน่ะ พวก​เรา​จะ​ขึ้น​ไป​ยัง​บัยตุลมักดิส และ​บุตร‍มนุษย์​จะ​ถูก​มอบ​ไว้​กับ​พวก​ผู้‍นำ​ทาง​ศาสนา​และ​พวก​ธรร‌มา‌จารย์ และ​เขา​เหล่า‍นั้น​จะ​ลง‍โทษ​ท่าน​ถึง​ตาย และ​จะ​มอบ​ท่าน​ไว้​กับ​บรร‌ดา​คน​ที่ไม่ใช่ยาฮูดี 34 คน​เหล่า‍นั้น​จะ​เยาะ‍เย้ย​ท่าน ถ่ม​น้ำ‍ลาย​รด​ท่าน จะ​เฆี่ยน​ตี​ท่าน​และ​จะ​ฆ่า​ท่าน และ​หลัง​จาก​นั้น​สาม​วัน​แล้ว​ท่าน​จะ​ฟื้น​ขึ้น​มา​ใหม่”

คำ​ขอ​ของ​ยะอฺ‌กูบ​และ​ยะหฺ‌ยา

35 ยะอฺ‌กูบ​กับ​ยะหฺ‌ยา​บุตร​ของ​เศ‌เบ‌ดี​เข้า​มา​บอก​ท่าน​ว่า “ท่าน​อา‌จารย์ ข้า‍พเจ้า​ทั้ง‍สอง​อยาก​จะ​ขอ​ให้​ท่านทำ​ตาม​คำ​ขอ​ของ​พวก​ข้า​พเจ้า” 36 ท่าน​จึง​ถาม​เขา​ทั้ง​สอง​ว่า “ท่านทั้ง​สอง​อยาก​จะ​ให้​เรา​ทำ​อะไร​ให้​พวกท่าน?” 37 พวก​เขา​จึง​ตอบ​ว่า “เมื่อ​ท่านจะ​รับ​เกียรติ​นั้น ขอ​ให้​พวก​ข้า‍พเจ้า​นั่ง​ที่​ข้าง​ขวา​คน​หนึ่ง ข้างซ้าย​คน​หนึ่ง” 38 อี‌ซา​จึง​กล่าว​กับ​เขา​ทั้ง‍สอง​ว่า “พวก‍ท่าน​ไม่​เข้า‍ใจ​สิ่ง​ที่​พวก​ท่าน​ขอ ถ้วย​แห่ง​พระพิโรธ​ที่​เรา​ดื่ม​นั้น​พวก​ท่าน​ดื่ม​ได้​หรือ? และ​บัพติศมา​แห่ง​ความ​ทร‌มาน​ที่​เรา​รับ พวก​ท่าน​จะ​รับ​ได้​หรือ?” 39 เขา​ทั้ง​สอง​ตอบ​ว่า “พวก​ข้าพเจ้า​ทำ​ได้” อี‌ซา​จึง​กล่าว​กับ​พวก​เขา​ว่า “สิ่ง​ที่​เรา​รับ​นั้น​พวก​ท่าน​จะ​รับ และ​ความ​ทุกข์​ที่​เรา​รับ​นั้น​ท่าน​จะ​รับ​ก็​จริง 40 แต่​การ​ที่​จะ​ให้​นั่ง​ข้าง‍ขวา​หรือ​ข้าง‍ซ้าย​ของ​เรา​นั้น ไม่‍ใช่​เรา​เป็น​ผู้​จัด แต่​ให้​กับ​ใคร​ก็​จะ​ให้​แก่​คน​นั้น” 41 เมื่อ​สา‌วก​สิบ​คน​ได้​ยิน​เรื่อง​นี้​ก็​มี​ความ​ขุ่น‍เคือง​ยะอฺ‌กูบ​และ​ยะหฺ‌ยา 42 อี‌ซา​จึง​เรียก​เขา​ทั้ง‍หลาย​มา​กล่าว​ว่า “ท่านทั้ง‍หลาย​รู้​อยู่​แล้ว​ว่า คน​ที่​นับ​ว่า​เป็น​ผู้​ครอบ‍ครอง​ของ​คน​ที่ไม่ใช่ยาฮูดีย่อม​เป็น​เจ้า‍นาย​อยู่​เหนือ​เขา​ทั้ง‍หลาย และ​พวก​ที่​เป็น​ใหญ่​ก็​ใช้​อำ‌นาจ​บัง‍คับ​พวก​เขา 43 ใน​พวกท่านจะ​ไม่​เป็น​เช่น​นั้น แต่​ถ้า​มี​ใคร​ต้อง‍การ​จะ​เป็น​ใหญ่​ท่าม‍กลาง​ท่าน คน​นั้น​จะ​ต้อง​เป็น​ผู้​ปรน‍นิบัติ​ของ​ท่านทั้ง‍หลาย 44 และ​ถ้า​ใคร​ต้อง‍การ​จะ​เป็น​นาย คน​นั้น​จะ​ต้อง​เป็น​ทาส​ของ​คน​ทั้ง‍หลาย 45 เพราะ​ว่า​บุตร​มนุษย์​ไม่​ได้​มา​เพื่อ​รับ​การ​ปรน‍นิ‌บัติ แต่​มา​เพื่อ​จะ​ปรน‍นิ‌บัติ​คน​อื่น และ​ให้​ชีวิต​ของ​ท่าน​เพื่อปลดปล่อย​คน​จำ‍นวน​มาก”

อีซารัก‌ษา​บาร‌ทิ‌เม‌อัส​คน​ตา‍บอด

46 อี‌ซา​กับ​พวก​สา‌วก​มา​ยัง​เมือง​เยรี‌โค และ​ขณะ​ที่​ท่าน​ออก​จาก​เมือง​เยรี‌โค​พร้อม​กับ​พวก​สา‌วก​และ​ฝูง​ชน มี​คน​ตา​บอด​คน​หนึ่ง​ชื่อ บาร‌ทิ‌เม‌อัส บุตร​ของ​ทิเม‌อัส นั่ง​ขอ‍ทาน​อยู่​ริม​ทาง 47 เมื่อ​คน​นั้น​ได้​ยิน​ว่า​อีซา​ชาว​นัซรอฮฺ​มา จึง​ร้อง​เสียง​ดัง​ว่า “อีซา บุตร​นบีดา‌วูด​เจ้า​ข้า ขอ​เมต‍ตา​ข้าพเจ้า​เถิด” 48 มี​หลาย​คน​ห้าม​ปราม​บอก​ให้​เขา​เงียบ แต่​เขา​ยิ่ง​ร้อง​เสียง​ดัง​ว่า “บุตรนบี​ดา‌วูด​เจ้า​ข้า ขอ​เมต‌ตา​ข้าพเจ้า​เถิด” 49 อี‌ซา​หยุด​และ​ยืน​อยู่ แล้ว​กล่าว​ว่า “ไป​เรียก​คน​นั้น​มา” พวกเขา​จึง​เรียก​คน​ตา​บอด​นั้น กล่าว​กับ​เขา​ว่า “จง​ยินดี​และ​ลุก​ขึ้น​เถิด อีซา​เรียกท่าน” 50 คน​นั้น​ก็​ทิ้ง​ผ้า‍ห่ม ลุก​ขึ้น​มา​หา​อีซา 51 อี‌ซา​จึง​ถาม​เขา​ว่า “ท่าน​ต้อง‍การ​จะ​ให้​เรา​ทำ​อะไร​ให้ท่าน?” คน​ตา​บอด​นั้น​กล่าว​กับ​ท่าน​ว่า “ท่าน​อา‌จารย์ ขอ​โปรด​ให้​ตา​ข้าพเจ้า​เห็น​ได้” 52 อี‌ซา​กล่าว​กับ​เขา​ว่า “จง​ไป​เถิด ความศรัทธา​ของท่านทำ​ให้ท่าน​หาย​ปกติ​แล้ว” ทัน‍ใด​นั้น​เขา​ก็​เห็น​ได้ และ​เดิน​ตาม​ท่านไป

Filed Under: มาระโก

« มา‌ระ‌โก 9
มา‌ระ‌โก 11 »

Copyright © 2025 · Admin · READ THE ZABOOR